สำหรับผู้หญิงแล้วการมีประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่อาจทำให้ผิดปกติได้ คือ สีของประจำเดือนที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม โดยส่วนใหญ่สีของประจำเดือนจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล แต่สีจะใกล้เคียงกัน คือ การออกสีแดงสด, สีแดงคล้ำ หรือสีน้ำตาลอ่อน นอกจากนี้ ยังมีประจําเดือนสีน้ําตาลเข้มและสีน้ำตาลดำไปจนถึงสีดำ ซึ่งอาจจะหมายถึงจำนวนวันของการจะมีประจำเดือน, ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก ทั้งยังสามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพของผู้หญิงได้หลากหลายด้านเลยทีเดียว

สาเหตุของการเกิดประจําเดือนสีน้ําตาล

ประจำเดือนสีน้ำตาลจะถูกแบ่งออกเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มและอาจจะออกเป็นสีน้ำตาลดำ โดยส่วนใหญ่แล้วประจำเดือนสีนี้จะพบในวันแรก ๆ ของการเกิดประจำเดือนและวันท้าย ๆ จะเป็นการบ่งบอกถึงปริมาณของประจำเดือนที่ถูกกักไว้ภายในเยื่อบุโพรงมดลูก ถ้าเป็นประจำเดือนสีน้ำตาลที่มาก่อนวันจะเป็นประจำเดือนจริงของคุณ จะเป็นการบ่งบอกถึงปริมาณของเลือด ที่ถูกขังไว้ภายในช่องคลอดหรือมดลูกเป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงทำให้เปลี่ยนจากสีแดงสดกลายเป็นสีน้ำตาลและจะมาพร้อมอาการปวดหน่วงที่บริเวณอวัยวะเพศ รวมไปถึงท้องน้อย

สำหรับการมีปัญหาเรื่องเยื่อบุโพรงมดลูกหนา สีเลือดของประจำเดือนจะออกมาเป็นสีแดงสดและจะออกมาจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถกลายเป็นสีแดงคล้ำได้ โดยจะออกในช่วงระยะเวลา 5-7 วัน จากนั้นจะเบาบางลงและก่อนที่จะหมดประจำเดือน อาจจะกลายมาเป็นสีน้ำตาลอีกครั้ง โดยสาเหตุจะเกิดขึ้นได้จากทั้งการรับประทานยาคุมกำเนิด จึงทำให้ประจำเดือนมาไม่มากและกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนจนถึงเข้ม ทั้งยังสามารถบ่งบอกได้ถึงความผิดปกติของการทำงานภายในร่างกายและการผลิตฮอร์โมน ส่วนหญิงที่ตั้งครรภ์ในช่วงเดือนแรก ๆ สามารถเกิดภาวะเลือดออกเป็นสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีน้ำตาลดำได้ด้วยเช่นกัน

ถ้าคุณมีประจําเดือนสีน้ําตาล ไม่ว่าจะเข้มหรืออ่อนและการออกเป็นสีน้ำตาลดำ เบื้องต้นไม่ควรตกใจเพราะจะหมายถึงการขับของเสียหรือเลือดเก่าที่ตกค้างอยู่ภายในมดลูกเดือนที่แล้วออกมา ประจำเดือนในสีน้ำตาลอ่อน เข้ม และดำ จึงจะมีแค่ในช่วงของวันแรกและวันต่อไปจะกลายเป็นสีแดงสดหรือสีแดงเข้มตามปกติ ส่วนของประจำเดือนที่จะเป็นสีน้ำตาลอมแดงจะมาในช่วงของ 3 วันแรก ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงการขับเลือดเสียทางของเดือนที่แล้วและเดือนใหม่ออกมา พร้อมกัน โดยจะมาร่วมกับอาการปวดท้อง เพราะมดลูกหดรัดตัวเพื่อทำการหยุดเลือดและเป็นการป้องกันไม่ให้เสียเลือดมากจนเกินไป แต่ทั้งนี้ถ้าเลือดออกเป็นสีน้ำตาลเข้มนานเกินกว่าช่วง 3 วันแรก จะต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะมีความเสี่ยงต่อการเป็นปัญหาพังผืดหรือเนื้องอกมดลูกได้อีกด้วย

การดูแลตัวเอง เมื่อเกิดประจำเดือนสีน้ำตาล

การดูแลตัวเองเมื่อพบว่ามีเลือดประจำเดือนออกเป็นสีน้ำตาลที่ควรทำมากที่สุด คือ สังเกตดูว่าประจําเดือนสีน้ําตาลนี้มาช่วงเป็นประจำเดือนวันแรกและวันสุดท้ายหรือไม่ ที่สำคัญคือจะต้องไม่เกินไปกว่า 3 วัน และปริมาณของประจำเดือนต้องมาอย่างเหมาะสม แต่ถ้ามีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มเกินกว่า 3 วันและมีปริมาณของประจำเดือนออกต่อเนื่องเกินกว่า 1 อาทิตย์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที! เพราะจำเป็นต้องให้แพทย์วินิจฉัยเพื่อรู้ทันปัญหาเนื้องอกภายในบริเวณมดลูก  นอกจากนี้จะมีอาการร่วมด้วย เช่น การปวดท้องที่บริเวณท้องน้อยหนักผิดปกติ มีอาการคลื่นไส้อาเจียนหนัก

ที่สำคัญคือการสังเกตการเปลี่ยนผ้าอนามัย ถ้าภายในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่เพราะแผ่นเก่าเต็มเร็วผิดปกติ นั่นหมายความว่ามดลูกของคุณกำลังมีปัญหาแน่นอน ซึ่งถ้าต้องมีการเปลี่ยนทุก ๆ ชั่วโมงและยาวนานหลายวัน อาจจะหมายถึงการติดเชื้อภายใน ฮอร์โมนเกิดความไม่สมดุล และมีปัญหาเรื่องเนื้องอกมดลูกได้ นอกจากนี้ผู้ที่มีปัญหาประจำเดือนมาน้อยผิดปกติ หรือมาแบบกระปิดกระปอยตลอดทั้งเดือน ควรพบแพทย์โดยเร่งด่วนด้วยเช่นกัน

สีประจำเดือนบ่งบอกอะไรได้บ้าง

สำหรับสีของประจำเดือนสามารถเตือนปัญหาเรื่องสุขภาพของผู้หญิงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นคุณจึงควรรู้ว่าสีของประจำเดือนในแต่ละสีจะบ่งบอกปัญหาอะไรบ้าง ดังนี้

• เลือดสีแดงสดจะถือเป็นเลือดประจำเดือนแบบสุขภาพปกติ ไม่มีปัญหาใด ๆ
• เลือดที่ออกเป็นสีส้มอมน้ำตาล อาจจะหมายถึงการติดเชื้อภายในที่ควรรีบพบแพทย์
• เลือดที่ออกสีแดงเข้ม อาจจะหมายถึงช่วง 2-3 วันแรกของการเป็นประจำเดือน ที่เลือดจะมามากเป็นปกติ รวมไปถึงการบ่งบอกสภาพอากาศที่ร้อน ทำให้ร่างกายและมดลูกต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม
• ประจำเดือนสีออกน้ำตาลดำ จะหมายถึงการขับของเสียหรือเลือดเก่าที่ตกค้างออก
• ประจำเดือนที่ออกเป็นสีชมพูหรือสีแดงจาง ๆ อาจจะหมายถึงการเกิดแผลอักเสบภายในและการที่มีระดับฮอร์โมนแปรปรวนผิดปกติ
• สีแดงอมน้ำตาลหรือน้ำตาลออกแดงสด จะมีเพียงแค่ 3 วันแรกของการมีประจำเดือนเท่านั้น จึงจะถือว่าผิดปกติถ้าออกนานเกินไปกว่านี้ ซึ่งอาจจะหมายถึงการเกิดเนื้องอกและพังผืดภายในมดลูก

ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงเรื่องปัญหาประจําเดือนสีน้ําตาลที่มาบ่อยครั้ง ทั้งยังมาพร้อมกับอาการปวดเกร็งหรือมดลูกบีบรัด ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด ถ้าไม่เกิดปัญหาใด ๆ แพทย์จะมีการแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาไม่ให้ปวดท้องมากนัก แต่ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะภายในจะได้รีบแก้ไขอย่างทันท่วงที